logo
logo

หนังสือเพื่อผู้ประกอบการชิคๆ ข้อคิดที่ได้

SME ฝึกวินัยทางการเงิน

By :

หนังสือเพื่อผู้ประกอบการชิคๆ ข้อคิดที่ได้

ตอนนี้เรากำลังอ่านหนังสือเล่มใหม่ How to be an overnight success คนเขียนคือ เจ้าของแบรนด์ เครื่องสำอางค์ Rodial ตอนแรกเราไม่รู้จักแบรนด์นี้นะ พออ่านแล้วรู้จักมากขึ้น จริงๆหนังสือก็แอบเขียนมาเพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์นั่นแหละ ทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้นได้จริงๆ แต่มันก็มีประโยชน์นะ ( เหมือนหนังสือ สร้างแรงบันดาลใจ คนอยากรวย แล้วก็แอบขายคอร์สเบาๆในเล่มตลอดเวลา 555 เป็นสิ่งที่รับได้อยู่ ) อ่านเพลินๆ ไม่คิดไรมาก แต่ก็จะว่าไม่ได้อะไรเลยก็ไม่ใช่ มันมี Key idea ที่เราอยากเก็บไว้ และเผื่อใครเห็นว่ามีประโยชน์ ลองดูนะ

หนังสือสำหรับผู้ประกอบการ chic ๆ

เราคิดว่าเล่มนี้เป็นหนังสือเพื่อผู้ประกอบการ chicๆ ไม่มีทฤษฎี MBA อะไร อ่านเพลินๆ สบายๆสไตล์ผู้หญิง แต่เพิ่มพลังในตัวเราได้นะ ตอนนี้เราอ่านถึงบท taking risks

ในหนังสือเขียนไว้ว่า ถ้าอยากจะทำอะไรใหม่ๆ มันต้องเสี่ยง มันอาจจะดีหรือไม่ดี แต่ถ้าไม่ลองเลยก็คือ 100% เฟล คนจะกลัวว่าจะทำสำเร็จมั้ย สิ่งใหม่ๆนี้ เราต้องลองให้เคยชิน ช่วงแรก มันต้องมีอุปสรรคผิดหวังแน่นอนแหละ ให้เตรียมใจไว้เลย แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่มีความหวังกับมัน เชื่อว่ามันไปได้ สุดท้าย มันก็จะไปได้ในที่สุด ไม่มีอะไรเพอเฟค ต้องทำก่อน แล้วค่อยแก้มาเรื่อยๆ เวลาทำงานอะไรให้มันนอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมายให้ทำ หรือหากเป็นผู้ประกอบการ อย่างเราๆนี่ เราคิดว่า เวลาลูกค้าอยากได้อะไรนอกเหนือจากสิ่งที่เราทำ อาจจะเป็นการถามคำถามต่างๆ เราต้องจด จดไว้ทุกวัน ว่าลูกค้าอยากรู้อะไร แล้วเอามาทำ content เพราะเรื่องพวกนี้ คือสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้จริงๆ เราอาจจะนึกไม่ถึง

ให้ทำงานเยอะกว่าที่ได้รับมอบหมายเสมอ เพราะเราไม่รู้ว่า โอกาสต่อๆไป เราจะได้ไปทำอะไรต่อ ให้มีสกิลสะสมไป ฝึกฝนไปเรื่อยๆนะ มันจะ เชื่อมโยงกันเองแต่ละอย่าง เราว่า

หากเราต้องการทำอะไร ฝึกสกิลอะไรให้หาโอกาสลองทำสิ่งใหม่ๆ เสมอ เช่นผู้เขียน ชอบเรื่องแฟชั่นมากๆ เธอสมัครไปเป็น editor นิตยสารสมัยเด็กๆ เขียนเมลไปบอก ว่าอยากเขียนเรื่องนี้เพราะชอบและสนใจ ตอนนั้น ก็ยังเด็กๆ อยู่ แต่ก็ทำ เพราะ ถ้าไม่ทำ โอกาสที่จะได้ก็แทบไม่มีเลย แต่ถ้าทำ ก็ยังมีโอกาส บางคนก็จะคิดว่า ไม่ได้หรอก ยังเด็กอยู่เลย แต่ในเมื่อมันไม่มีอะไรจะเสีย ก็ควรลอง เมื่อสิ่งที่อยากทำ มันมีมากกว่าความกลัว ทำเลยค่ะ

คือตอนนี้ เรากำลังลดอ้วนอีกรอบนึงแล้วล่ะ เพราะเรื่องหลักๆเลยคือสุขภาพ เราหนักมากไปถึง 67.7 แล้วแหละ เราทำมาได้ อาทิตย์นึงลดไป 1 กก ได้ แต่มันก้เพิ่งเริ่ม เรื่องลดอ้วนจะเขียนในบลอกถัดๆไปนะ วันนี้เรื่องหนังสือก่อน คือในหนังสือบอกว่า ถ้าจะเริ่มอะไรใหม่ๆ ให้ลองเสี่ยงนั่นแหละ แต่ถ้ามันเสี่ยงมากไปก็ไม่ต้องนะ อาจจะลองดู งาน event ที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากทำ หาหนังสือ publications อ่านเรื่องที่เราสนใจ ทำควบคู่ไปกับงานประจำของเราได้

ผู้เขียนเขียนไว้ว่า ตอนแรกที่เธอทำบริษัท Rodial นี้ เธอต้องเสี่ยงลาออกจากบริษัท finance ที่ได้รายได้ 6 หลักต่อเดือน ถือprada ไปทำงานทุกวัน เธอลาออกมา ตั้งบริษัทเอง 5 ปีแรก ที่ไม่มีรายได้ เธอต้องเก็บเงินเอาไว้ เธอซื้อเสื้อผ้าตลาดนัด คือตอนแรกก็ต้องเซฟเงินไว้ จ่ายลูกน้องด้วยล่ะ ตอนที่ยังไม่มีรายได้

เราเกิดไอเดียเลยว่า ตอนนี้เราทำงานประจำอยู่ เราอยากเก็บเงินไว้ส่วนนึง เพื่อทำสิ่งใหม่ๆ ที่คู่แข่งเราไม่ได้ทำ มันต้องเสียสละเพื่อทำให้กิจการเติบโตได้ มันก็เป้นการลงทุนอย่างนึง ต้องดูจังหวะเหมือนกันนะ เราจะโนตเก็บไว้

อีกเรื่องนึงที่อยากทำใหม่ๆ เรื่องใหม่สำหรับเราจริงๆคือการลดอ้วน เราอยากทำให้ได้ผล อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนลดอ้วนได้ เราอาจจะมีพลาด หลุดบ้าง ตอนนี้เราเก็บเงิน จ้าง trainer มาที่บ้าน เราพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เราอยากเป็นคนที่ดูดีขึ้น เพราะเรารู้ว่า ถ้าเราดูดี โอกาสจะเข้ามาหาเราเอง เรายอมเสียสละ ไม่กินแพงๆ ไม่ซื้อเสื้อผ้า ไม่ทำผม เราจะลดอ้วนให้ได้ เป้าคือ 55 แหละ

ยิ่งเราอ่านหนังสือเล่มนี้ไป เรายิ่งเข้าใจเลยว่า มันต้องเสียสละ เก็บเงินไว้ส่วนนึงสำหรับซื้อความรู้ ลงทุนเพิ่ม เราซื้อหนังสืออ่านบ่อย บางเล่มก็อ่านไม่จบ แต่ถ้าเล่มไหนอ่านจบคือ มีคุณค่ามากจริงๆมันเปลี่ยนชีวิตได้ เล่มแรกที่เราอ่านแล้วมีimpact กับชีวิต เรื่องเงินเลย เรายังอ่านไม่จบในตอนนั้น แต่ก็เริ่มเก็บเงินจริงจัง เราเป็นคนเก็บเงินช้า เราเพิ่งมาเริ่มเก็บเองแหละ

ตอนนี้โรคระบาด งานก็มีมาเรื่อยๆแล้วล่ะ เราก็เข้าใจคอนเซป ทำธุรกิจมากขึ้น บางอย่างต้องใช้เงิน ลงทุน บางอย่างศึกษาเองได้ ทดลองไป แต่ที่สำคัญสุดๆ ก็ยังเป็นการเก็บเงิน saving นะ เดือนนี้น่าจะมีเงินเก็บขึ้นมาเพิ่ม

เดือนหน้าก็จะได้ไปเที่ยวทะเลแล้ว หลังจาก ครึ่งปีแรกที่ไม่ได้ไปไหนเลย เราดีใจอะ ไว้จะถ่ายภาพมาให้ดูกันนะ

นึกไว้เสมอว่า ต้องมีเงินเก็บสำหรับการลงทุนให้บริษัทเติบโต มันคือคอนเซปง่ายๆนั่นแหละ แต่เราก็ไม่ได้ระวังมันมาก ต่อไปนี้ต้องสนใจมากขึ้นแหละ มันคือการทดลองอะไรใหม่ๆด้วย ทำให้ไม่เบื่อกับสิ่งที่ทำเดิมๆด้วยนะ ตอนแรก อาจจะลำบาก เหนื่อยหน่อย แต่ถ้ามันไปได้ดี จะรู้สึกฟินมากๆ (ถ้าไม่ทำ ก็จะรู้สึกค้างคาในใจ) มันจะฝึกทำให้เราเป็นคนแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ทำให้เราแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยล่ะ

ในหนังสือยังบอกอีกว่า สร้างอะไรที่มัน เป็น viral ทำสิ่งที่คู่แข่งไม่ทำ อืมมมมมมม สิ่งที่คู่แข่งไม่ทำ สำหรับเราก็ยังพอนึกออก แต่ go viral สำหรับเราดูห่างไกลเหลือเกิน จริงๆเราก็ไม่ใช่คนจะมา สร้าง content อะไร viral นะ ทำไม่เป็น คิดว่าทำไปเรื่อยๆ น่าจะมีประสบการณ์ไอเดียมากกว่านี้สำหรับ เรื่องนี้แหละ.

Leave A Comment