เราต้องการให้สินค้าเราอยู่ในกระแสตลอดเวลา ทำยังไง หนังสือมีแนะนำมาแหละ ต้องมีความ Creative ในการประชาสัมพันธ์เหมือนกันนะ เพราะ ไม่ได้จ้าง agency ราคาสูง ต้องทำเอง คิดวิธีเอง
แนะนำทิปในการเพิ่ม creative ภายในตัว อ่านจากในหนังสือมาและอยากแชร์
มันคือการมองเห็นโอกาสที่คู่แข่งในตลาดยังไม่ได้ทำ เราอยากมองเห็นตัวเองในอีก 5 ปีเป็นยังไงให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องทำมันขึ้นมา ค่อยๆทำ บางทีก็ตื้อๆไม่รู้จะทำอะไรใหม่ๆเนาะ เขามีทิปมาเล่าให้ฟัง
- ดู youtube คนที่เราชื่นชอบ เพื่อดูว่าจะทำอะไรใหม่ๆได้บ้าง อันนี้ เราดู youtube เสมอๆ แหละ แต่ก็ยังไม่เจอคนที่ชอบจริงๆนะ เกี่ยวกับการทำงานน่ะ ดูไปเรื่อยเลย
- เปลี่ยนสถานที่ทำงาน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ข้อนี้คือ ทำบ่อยมากนะ บางทีก็ไปนั่งร้านกาแฟ ทำงานที่ก็ไม่ได้เยอะแยะอะไร นั่งครึ่งชม ชมนึงก็ออกมาแล้วล่ะ
- ตัดภาพ หรือ คำพูดของคนที่เราชื่นชอบ คำพูดที่โดนใจจากแม้กกาซีนหรืออื่นๆ เอาไว้ และเอามาดูวันที่รู้สึกแย่ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง —- จะลองทำดูแหละ ดีเหมือนกันนะ
- ไปร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือที่อ่านแล้วดีต่อใจให้กำลังใจตัวเอง — อยากบอกว่าข้อนี้ทำเสมอๆเลย เลยได้เล่มนี้มาไง อ่านก่อนนอน ดีต่อใจมากๆ เขียนบลอกได้อีกด้วย
- โทรไปหาเพื่อนบ้าง เล่าให้ฟังว่าอะไรเป็นยังไง — ต้องโทรหาเพื่อนที่ให้กำลังใจเรานะ เป็นพลังบวกให้แก่กัน
- จัดห้องใหม่ อาจจะคิดอะไรออกมากขึ้น — วันนี้เราก็เพิ่งจัดห้อง ทำความสะอาดไป สดชื่นชึ้นจริงๆนะ
- ไปวิ่งตามสวน เผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ ตอนที่สมองปลอดโปร่งสดชื่น – อันนี้ช่วยได้มากจริงๆ เราก็เพิ่งไปมา ดีมากๆ แต่มันเป้นวันอากาศดีๆด้วยแหละ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยก็ต้องดูวันด้วยนะ เราเอาวีดีโอมาให้ดู สวนหลวง
8. กินชา กินกาแฟบ้าง มันช่วยได้จริงๆนะ
เพิ่งฟังสัมภาษณ์จากเจ้าของเพจๆนึง เขาว่า ถ้ามันคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ เราจะเขียนมันออกมาได้ทุกวัน (นี่คือสิ่งที่เรากำลังอ่านอยู่ และเขียนมันออกมาได้ทุกวัน) อัพเดทลงเพจ พอเขียนเสร็จ แล้วก็ไม่ได้กลับไปอ่านมันอีกสักเท่าไหร่ เออ ก็คงจะจริงแหละ สำหรับเรา เราไม่ได้เขียนอะไรลงเพจ เราไม่มีเพจfacebook ที่เป้นชิ้นเป็นอันสำหรับการเขียนบลอกนะ เรามีเพจขายของอยู่ เรามักจะชอบบันทึกไว้ในบลอกสะมากกว่า
เราพยายามอ่านหนังสือมากขึ้นมากๆ ซื้อเยอะเหมือนกัน อ่านจบบ้างไม่จบบ้าง แต่เล่มที่ชอบก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าอ่านและขีดเส้นใต้เอาไว้ มาลงบลอกต่อด้วย อยากเก็บไว้จริงๆแหละ วันนี้เราได้อ่านเรื่อง PR ประชาสัมพันธ์ จะทำยังไงให้อยู่ในสื่อตลอดเวลา ….
สำหรับเราแล้วเป็นเรื่องไกลตัวมาก เราทำโฆษณา จ่ายเงินเองทาง facebook นั่นล่ะ นอกจากนี้เราก็ไม่เคยใช้วิธีจะให้ celebrities คนไหนจะมาถือของเรา ถ่ายโชว์หรือ พูดถึงอะไรเลย ในยุคนี้มันก็ง่ายขึ้น ที่จะทำให้ของๆเราเป็นที่พูดถึง เราอาจจะส่งสินค้าไปให้ ดารา ผู้มีชื่อเสียง สัก 100 คน อาจจะมีสักไม่กี่คนที่เอาของเราขึ้นมาถ่ายภาพและโพสของเราลงให้ตาม social media ถ้าของเราดีจริงๆ บางทีก็อาจจะไม่มีคนโพสเลยก็ได้นะ ฮ่าๆๆ แต่อย่าลืม ว่ามันไม่ได้เสียเงินอะไร (คือไอเดียนี้เราไม่เคยคิดจะทำจริงๆหรอกนะ อ่านในหนังสือมา)
สมัยก่อนเราจำได้เลยว่า เราเคยโทรไปหา แม้กกาซีน ทีวี billboard สื่อวิทยุต่างๆเพื่อถามราคาค่าลงโฆษณา คือแพงมากจริงๆ ป้ายตามตึกก็ถามนะ ที่จำได้แม่นคือ นิตยสารรายสัปดาห์ที่มีคนอ่านมากที่สุดในประเทศไทย จริงๆเคยลงด้วยล่ะ 20,000-30,000 ได้ มีคนติดต่อมาแหละ แต่ไม่คุ้ม 555+ มันทำประชาสัมพันธ์ยากมากในสมัยก่อน สมัยนี้ง่ายกว่าเดิมมากๆ social media นี่ มันเฉพาะเจาะจงกลุ่มได้ ใครๆก็ทำประชาสัมพันธ์ใน online เนาะ
เราก็ไม่ได้เป็นคนมีงบจะมาลงกับการโฆษณาอะไรมากมาย เขาก็แนะนำว่า ให้ส่งสินค้าเราไปให้ ตามสื่อต่างๆ อาจจะเป็นในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เขาช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เรา โพสลงสื่อโซเชี่ยวของพวกเขา อือ เราก็คิดอยู่ว่า เราน่าจะทำแหละ เราเป็นคนไม่ค่อยพูดกับใคร แต่หลายๆทีก็ต้องทำเนาะ ทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ และ push the limit ของตัวเองเสมอๆ จะได้ไม่เบื่อ
หลายๆช่วง เราก็ทำสินค้าตัวนี้มานานแล้วก็ต้องมีการออกตัวใหม่ๆ ออกมาให้คนพูดถึงใหม่ๆด้วย รีเรชั่นชิพกับสื่อต่างๆสำคัญมากจริงๆ (อันนี้ต้องลองนะ ไม่เคยทำ)
วันนี้ก็เขียนแค่สั้นๆนี้ตามที่ได้อ่านมา การประชาสัมพันธ์ ที่ไม่เสียเงินมาก มันก็ต้องอาศัยความ creative ในตัว ว่าตอนนี้ควรจะเสนอเรื่องอะไร อะไรอยู่ในกระแส ควรจะเข้าหาใคร สื่อไหน คนดังคนไหน มีรีเรชั่นชิพที่ดีกับพวกเขา เพราะพวกเขาก็คือเพื่อนๆเรานี่ล่ะ ดาราคนดังก็อยากจะใช้ของใหม่ๆ ไม่ได้ยึดติดอะไร สิ่งเดิมๆ ถ้าเรามีของดี ก็ควรลองทำ
หลังจากนี้ก็จะทำ สินค้าใหม่ออกมาแหละ ยิ่งอ่านยิ่งอยากทำ 555 มีกำลังใจทำงานเลยล่ะ
น่าจะมีคนเขียนประสบการณ์การส่งของไปให้คนดังรีวิว หรือโพสลง social media บางอย่างเนอะ เราเชื่อว่า ถ้าของดีและเขาชอบจริงๆก็ลงฟรีๆให้แหละ ของดีก็มีเครดิตดีอยู่แล้ว
