logo
logo

ประสบการณ์ เช่า ตึกแถวค้าขาย

ไม่มีหมวดหมู่

By :

ในระหว่างล้างจาน เก็บของสำหรับทำขนม เราก็คิดอยู่ว่า ที่ผ่านๆมาเราทำอะไรอยู่ ทำไมเราไม่ทำขนมตั้งนานแล้ว เพราะเป็นรากอาชีพของเรา แต่อย่างว่านะ อะไรที่เกิดขึ้นดีเสมอล่ะ เราอาจจะเติบโตช้า เราลองผิดลองถูกอะไรมา รู้ว่าอะไรใช่ไม่ใช่ ไม่ใช่แนว ก็มีเยอะ แต่เราจะไม่พูดถึงตรงนั้น วันนี้จะมาคุยเรื่อง เช่าอาคารพานิชย์สำหรับค้าขาย เราคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะ ออกตัวก่อนว่านี่ไม่ใช่บทความของผู้เก่งอะไร ไม่ได้ประสบความสำเร็จ (ตอนนี้เราว่าเรายังไปได้อีกเยอะ) เพียงแต่เป็นประสบการณ์ส่วนนึงในชีวิตเวลานึงเท่านั้น

เราใช้เวลา 5 ปีครึ่ง ในการค้าขายในอาคารพานิชย์ เริ่มทำประมาณ 6-7 ปีก่อนนี่่ล่ะ (ตอนที่เราเขียนเรืองนี้คือ เมย 2019 นะ) เริ่มแรกก่อนเลย ทำไมถึงต้องไปขายในอาคารพานิชย์ ตอนนั้น ก็ลองผิดลองถูกเนาะ ขายในห้างสรรพสินค้า ขายในซุปเปอร์ ขายร้านค้าส่ง ขายในตลาด มันก็มีทั้งไปต่อได้ และไม่อยากทำต่อ ที่ไม่อยากทำต่อ บางทีไม่ใช่ที่ตัวเงินอย่างเดียว มันมีความยุ่งยากในการทำงาน เช่น ต้องติดต่อกับคนเยอะ หลายฝ่าย ขออนุญาต บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ผ่าน ก็ไม่ได้ทำ อำนาจในการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่เรา เราก็เริ่มมองหา แหล่งช่องทางที่เราสบายใจที่จะทำ ก็เลยลองขับรถดูอาคารพานิชย์ให้เช่าแถวบ้าน ไม่ได้ซื้อเพราะ ต้องการลองก่อนว่าเป็นยังไง และตอนนั้น ไม่มีตัง 555 สิ่งที่สำคัญ

เราได้ที่ทำมาหากินแล้ว! เป็นอาคารพาณิชย์ 1 ห้อง ขนาดหน้ากว้าง 4 ตารางเมตร ลึกเข้าไป 8 ตารางเมตรได้ สูง 4 ชั้น ห่างจากบ้านประมาณ 5 กม ขับรถไปทำงานประมาณ 15-30 นาทีแล้วแต่รถติด รถไม่ติดซึ่งสะดวกมาก สำหรับเรา เป็นที่มุมห้องเลย ทั้งหมดมบป้ายโครงเหล็กบังกันเอง บางห้องก็ทำผนังกั้นทึบ ไม่เห็นห้องเราเลย แต่ด้วยความอยากลองทำ เพราะมันใกล้บ้าน ก็เลยตัดสินใจทำ อันนี้ก็คือ 1 ในข้อผิดพลาดของเรานะ ต้องดูเพื่อนบ้าน ร้านค้าด้วยนะว่าเป็นคนยังไง นิสัยใจคอ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไหม หรือเจ้าของตึกเขาทะเลาะผิดใจกันมาก่อนรึป่าว 555 เพราะว่า ห้องที่เราเช่ากับห้องข้างๆที่ทำป้ายบัง และทำกั้นปิดทึบ ตอนเราเข้าไปใหม่ๆ เราก็ดันมารู้ว่า เจ้าของตึกดันทะเลาะกันมาก่อนอยู่แล้ว เขาเลยทำปิดกั้นไปเลย ไม่ให้เห็นห้องเราเลย คือคนขับรถผ่านแล้วเข้าปั๊ม ก็จะเห็นอยู่ แต่ถ้า ขับไปผ่านแล้วผ่านเลยน่ะ ต้องสังเกตจริงๆถึงจะเห็น แต่มันก็เป็นผลมาจาก ห้องก่อนหน้าที่ติดกับเรา เขาทำก่อนด้วยหมายถึงว่าทำกั้นห้องให้มันบังๆกันอะนะ มันเลยลามมา ห้องสุดท้ายเลยซวยไปไง ฮาาาาาา แต่ข้างๆตึกก็ยังทำป้ายโฆษณาแผ่นใหญ่ ขนาด 9.5x 8 ตรม ได้อยู่นะ เดี๋ยวเล่าเรื่องป้ายใน ย่อหน้าถัดๆไปนะ

ทำไปได้สักพัก ปีแรก ครึ่งปีแรกก็ยังขายไม่ได้เท่าไหร่ แต่ก็พอสำหรับค่าเช่า 22,000 และเราก็อยู่เอง ค่าแรงพนักงานขายก็ไม่มี ค่าน้ำมันรถไปๆมาๆ ตอนแรก แอร์ก็ยังไม่ได้ติดเนาะ ค่าไฟ ก็ไม่กี่ร้อย ค่าน้ำ 150 บาททุกเดือน ไม่มีเกิน พอเริ่มขายไปเรื่อยๆ ก็ได้คุยกับลูกค้าเอง รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ในช่วงนั้นนี่ เรามีความรู้เรื่อง การทำเวปไซต์ ทำการตลาดออนไลน์มาบ้าง แต่ก็งูๆปลาๆเนาะ เรียนมาก็เอามาฝึกใช้เอง ได้ลูกค้าจากทาง internet online เยอะกว่าหน้าร้าน ทั้งที่ตอนนั้น เป็นตอนแรกๆที่เราทำ เราก็เริ่มรู้ว่า Online มีผลมากๆ แต่ Offline เช่น ป้ายหน้าร้าน ร้านค้าที่สำหรับให้ลูกค้ามาดูสินค้าก่อน มันก็สำคัญ พอๆกัน แต่ถ้าถามถึงความคุ้มค่าของเงินที่ลงไป เงินที่ได้มา กำไรทั้งหมด การขาย Online มันก็ลงแรงมากกว่าลงเงินนะ สำหรับเรา ถ้าเป็นตึกอาคารพานิชย์ของเราเองถึงจะคุ้มค่ากว่าเราว่า ช่วงแรกๆของการทำ เราลงแรงไปกับการทำ Online Marketing เยอะมาก ทุกวัน เราต้องมีกิจกรรมทาง Online ไม่ว่าช่องทางไหนก็ช่องทางนึง อันนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากเก็บรายละเอียด ให้เพื่อนๆลองอ่านดู เผื่อจะได้เป็นไอเดียในการทำ พอเราเริ่มได้ลูกค้าจากทาง Online มาที่หน้าร้านแล้ว เราก็เริ่มคุยกับลูกค้ามากขึ้น เราเป็นคนคุยไม่เก่งเลยจริงๆ แต่เราก็มีน้ำดื่ม ขนม นมเนย อะไรเตรียมต้อนรับลูกค้า บางวัน เรามีผลไม้สดด้วยนะ 555 เอาใจมาก เราอยากให้เข้ามาทีแรกประทับใจกันเลยดีกว่า และมันก็ได้ผลนะ เราไปเอาเทียนหอม อะไรมา จุด คือร้านนี้เราเต็มที่เลยอะ เอาเครื่องเสียงลำโพงอย่างดีมา แต่เราเล่าข้ามนะนี่ ตอนแรก ร้านเราไม่มีอะไรเลยนะ พอเริ่มรู้ว่า ลูกค้า online มีกำลังซื้อแฮะ เลยจัดการปรับปรุงร้านตั้งแต่ เลย 5 เดือนแรกไป เราเริ่มทำตอน มค เราไปดูแบบภาพเปอร์ ทำร้าน ติดแอร์ ได้ตอน เดือน พค มิย ได้นะ เพราะเมษา ร้อนมาก และเราก็กั้นห้อง ทำฝ้า ทำป้ายไฟ กระจกtemper glass อะไร มีหมด ลงทุน

ลูกค้าที่มาซื้อ หน้าร้านเราก็จะพูดตลอดว่า หาร้านเกือบไม่เจอ ขับรถเลยบ้าง ความคิดเห็นทางด้านผลิตภัณฑ์ของเรานี่ มีประโยชน์มากๆ ทุกคอมเม้น เจ้าของร้านเราว่าควรคุยกับลูกค้าเองอยู่ร้านตลอด ให้มันรู้ไปเลยว่า ลูกค้าอยากได้อะไรและปรับตาม ยอดขายก็สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเราฮึดมาก มีค่าใช้จ่ายฟิก ต่อเดือนแล้วนี่ มีค่าเช่า 22000 ค่าพนักงานขาย 12,000-13000 เรามีเด็กขาย แค่คนเดียว ในตอนแรก ตอนกลางๆจะมี 2 คน เพราะขายดีขึ้น ตอนหลังๆ มีแค่คนเดียว เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าทำไม

5-6 ปีก่อน ขายอะไรก็ดี ยังคิดอยู่ว่าของมีไม่พอลูกค้าจะซื้อ เขาก็อยากได้ของที่มีราคาสูงกว่านี้ แต่เราก็ไม่มีให้ไง กำลังซื้อถือว่าดีมาก หลังๆมาเพิ่ม พนักงานเป็น 2 คน เราก็ไปทำงานนอกสถานที่ หาของมาขายเพิ่มบ้าง แต่ก็มีบางทีที่เด็กออก พร้อมกัน ช่วงนั้นเราก็ต้องอยู่กับร้าน บางทีมาเปิดร้านก็เจองู เจอกิ้งก่า ด้านหลังตึกจะเป็นพงหญ้าและมีบานเกร็ด ตรงห้องน้ำ มันก็เล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ นี่คือปัญหาของการเช่าอาคารพาณิชย์อีกอย่างนึงนะ คือ มันไม่เหมือนห้าง ห้างก็จะมี ยาม ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างมากก็แมงสาบ งูก็คงจะมี คนจับให้ไปแล้วเรียบร้อย แต่นี่ เจองู ต้องเรียกพี่วินมาจับให้ หรือเรียกอพปร ซึ่งเราเคยใช้บริการทั้ง 2 อย่าง วินมอเตอไซจับแล้วเอาไปเลย ไม่แน่ใจว่าเอาไปกินรึป่าว แต่ก็ขึ้นอยู่กับงูด้วยนะ มันตัวเล็กๆไม่ใหญ่มาก แต่ อพปร นี่ชื่นชมมาก ทำงานด้วยใจและไวตามงานได้ดีด้วย มีทีม วอ เรียกหากัน เสิชหาเบอร์จากในเนท เขาจะมีเป็นท้องที่เนาะ ถ้าโทรผิดเขต เขาก็จะแนะนำคนอื่นๆใกล้ๆให้

เรื่องสุดท้ายที่เราจะเล่าก่อนปิดบลอกในวันนี้คือ ปัญหาแรงงานเรื่องคนนี่ปัญหาระดับชาติของหลายๆกิจการจริงๆ เราต้องเฟ้นหาอย่างมาก ติดป้ายตามเสาไฟฟ้าก็เคย ติดหน้าร้าน ตามซอย เดินไป ติดไป เอากาว2หน้าแปะ แต่ผลตอบรับถือว่าดี เพราะได้คนดีๆมาจากป้ายเยอะเหมือนกัน แต่บางทีที่ เด็กที่ร้านออกพร้อมกัน 2 คน ก็ทำเอามึนเหมือนกัน เราก็ต้องอยู่เองเนาะ เจอคนไม่ดี บางทีก็เอาของเราไปขายให้ลูกค้าเอง ราคาถูกกว่าที่หน้าร้านเราขาย บางคนอายุน้อยๆ ทะเลาะกับแฟน ก็ขอมานอนที่ร้านบ้าง แฟนตามมา ขู่งั้นงี้ มีแฟนไม่ดี ชีวิตก็พากันไม่ดีไปด้วยเนาะ บางคนก็เอาลูกมาเลี้ยงด้วย การดูแลคนนี่เราว่าต้องใช้ประสบการณ์มากๆเลย

ท้ายสุดแล้วจริงๆ ค่าเช่า 22000 / เดือน ที่เราจ่ายใช่มั้ย ตอนเริ่มทำสัญญา มัดจำ 2 เดือน มีล่วงหน้า 1 เดือนนะ หากใครสนใจอยากจะรู้อะไรเพิ่มเติม คอมเม้นมาได้เลยนะ อยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆ วันนี้เราขอจบการเล่าประสบการณ์การค้าขายในอาคารพาณิชย์ให้เช่าคร่าวๆก่อนนะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อยนะ

Leave A Comment