logo
logo

เริ่มเรียนรู้ทางการเงิน จากคนไม่รู้อะไรเรื่องเงินเลย (กย 62)

ฝึกวินัยทางการเงิน

By :

เริ่มเรียนรู้ทางการเงิน จากคนไม่รู้อะไรเรื่องเงินเลย (กย 62)

ตอนนี้เดือนตุลาคม 62 แล้ว เราอยากเล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทางการเงินของเราเก็บไว้ เราคิดว่า เราจะมาพิมทุกเดือนที่เราทำอะไรเพิ่มเติม มันจะต้องดีขึ้น ตอนนี้เรายอมรับว่าเราไม่มีความรู้เรื่องเงินเลย อยากดีขึ้น และล่าสุด เราก็คุยกับพี่ย้งเรื่องแหวนเพชร แหวนทอง555 มันก็เลยทำให้เราสนใจเรื่องการซื้อทรัพย์สินลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย ถึงเป็นที่มาของเรื่องวันนี้ เราบอกก่อนว่า ทรัพยากรของพวกเรามีจำกัด มันต้องทำขึ้นมาด้วยตัวเองนี่ล่ะ ที่เลือกจะมาพิมตอนนี้ เพราะอยากพิมเลย นึกอะไรออกแล้วพิมเลยดีกว่าเก็บดองเอาไว้

เรากำลังอ่านหนังสือเรื่อง I’m not broke , I’m a pre-rich ชื่อหนังสือมันก็ดูกวนๆเนาะ ประมาณว่า I’m not fat , I’m a pre-ผอม (อันนี้เอามาจากเพื่อนเรานะ 555) เราซื้อหนังสือเล่มนี้มาต่อจากการอ่าน Rich dad poor dad พากภาษาไทย

อ่านเล่มนี้อยู่ หนังสือเรื่องเงิน ภาษาอังกฤษเล่มแรกที่อ่านก่อนนอนได้ เรื่อยๆ ชอบ

เราอ่าน Rich dad แบบผ่านๆมากๆ แต่เราเข้าใจคอนเซปมันและอยากพัฒนามากขึ้น แต่หลายๆอย่างมันก็ทำไม่ได้จริงหรอกในหนังสือ มันก็ต้องเริ่มจากการหาเงินของตัวเองให้พอกินก่อนนั่นแหละ ตอนนี้พอกินแต่ไม่เคยเก็บ ไม่เคยมีพอจะเก็บ เพราะไม่ได้ประหยัด ลดค่าใช้จ่ายใดๆเลย เอาจริงๆรายได้ก็ลดลง 555 กำลังหาทางเพิ่มอยู่ แต่ก็ยังไม่เสถียร

เราอ่าน I’m not broke มาได้ครึ่งเล่มแล้วล่ะ มีประโยชน์มาก ตั้งแต่บทแรกเลย คนเรามักไม่ได้คุยกันเรื่องเงินจริงๆล่ะ มีปัญหาอะไรก็เก็บไว้คนเดียว แก้เองคนเดียว จริงๆแล้วเราอยากมี สังคมเล็กๆที่เราสามารถเปิดใจคุยเรื่องเงินได้กับคนอื่นๆนะ จริงๆเรื่องเงินก็ไม่ได้น่ากลัว เราอายุ 34 แล้ว เรียนรู้ช้า เพราะ 10 ปีแรกของการทำงาน เราก็ไม่ได้โฟกัสด้วยล่ะ เราอยากเขียนไว้เผื่อให้ใครที่ผ่านมา ที่ไม่มีไอเดียเรื่องนี้ได้อ่าน ใครมีอะไรก็คอมเม้นไว้ได้นะ เราก็กำลังเรียนรู้อยู่ มีอะไรก็แนะนำได้ค่ะ

ในหนังสือก็เขียนไว้ว่า เราควรที่จะรู้มูลค่าของตัวเองในตอนนี้ มูลค่าในตัวเองคือ ทรัพย์สิน หักลบ หนี้สินนั่นแหละ ก็คือ Net worth ตอนนี้เรามาดูตัวเองแล้ว ปรากฎว่าเรายังติดลบ เรามีหนี้ แต่เราก็หนี้ลดลงเรื่อยๆนะ หลังจากอ่านเล่มนี้เรารู้ทันทีเลยว่า เราจะต้องมีความมั่งคั่งให้ได้

การหาเงินให้ได้เยอะๆ ไม่ใช่คำตอบ หากทุกวันนี้ยังคงใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ได้ตั้งbudget เท่าไหร่ ๆจะเก็บออมเดือนละเท่าไหร่ การออม ก็นำไปสู่การสร้างทรัพย์สิน ถ้าไม่มีออมเลย ก็จะไปทำอย่างอื่นก็ยาก เราไม่ได้วางแผนว่าจะเกษียรตอนอายุเท่าไหร่เลยอะ

เราคิดว่า แค่ไอเดียที่เราอ่านเจอในการสร้างความมั่งคั่ง net worth นี่มันก็คุ้มมากๆแล้วกับการอ่านหนังสือเล่มนึง จริงๆเราเกลียดการอ่านหนังสือมากนะ แต่พอมาอ่านเล่มนี้แล้ว รู้สึกเปิดโลกมาก

มันก็เริ่มประหยัดมากขึ้นในเดือนกันยายนนี้เรา ได้ทำ 2 อย่างที่เห็นชัดมากคือ 1. เลิกใช้บัตรเครดิตส่วนตัว ใช้เฉพาะกิจการเท่านั้นเลย มันก็จะเริ่มเห็นผล เดือน ตุลาคมนี่ล่ะ เพราะเราไม่มีหนี้ค้างที่ต้องจ่ายอะไรเยอะแยะเท่าเมื่อก่อน

อย่างที่ 2 เลยคือ เรากินประหยัดมากขึ้น จากที่ไปกิน fancy meal บ่อยมากกกกกกกตามห้างร้าน ตอนนี้หันมาสั่งกับข้าวในไลน์หมู่บ้านที่รสชาติใช้ได้มาส่งฟรี ราคาเป็นธรรม

3. เราลดรายจ่าย เนทบ้าน AIS แต่ก่อนเราจ่ายอยู่ 1400 ตอนนี้ลดเหลือ 700 อันนี้เราค่อนข้างประหลาดใจ กับ relationship ระหว่างเครือข่ายมือถือกับลูกค้ามาก เหมือนกับว่า ใครเผลอ ก็ฟันหัวแบะเลย 555 คือใครไม่ดูค่าใช้จ่ายรายละเอียดพวกนี้นี่ โดนนนนนเยอะอะ เราควรเช็คอย่างสม่ำเสมอว่า ตอนนี้มีอะไรที่ดีกว่าไหม อาจจะย้ายค่าย หรืออะไรๆ ที่สำคัญคือ ไม่ติดสัญญา ดีที่สุดนะ (ถ้าเลือกได้​)

ตอนนี้ เราจดรายรับรายจ่ายละเอียดมากเราใช้แอพ moneylover หาๆดูใน app store มันก็ขึ้นมา ไม่ขี้เหร่ ก็เอาเลยทันที 555 เราค้นพบว่า ใช้เงินไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเริ่มประหยัดในการกินที่บ้านแล้วไง เราจะมีรายจ่ายการศึกษาเยอะเหมือนกัน เราลงทุนกับหนังสือ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเรียนรู้ สร้างเนื้อสร้างตัวของเราเลยอะ เราอาจจะไม่ได้ไปเจอเพื่อนบ่อย เอาจริงๆ เจอแฟนก็เจอน้อยลงนะ แต่เราก็ต้องพยายามทำให้ความสัมพันธ์ไม่ห่างกันจนเกินไป เราอยากสร้างฐานะ ช่วยกันสร้างกันกับแฟน

ตอนนี้ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะยกเลิกสมาชิคฟิตเนส แต่ก็ยัง2 ใจว่าถ้ายกเลิกจะไปเล่นที่ไหนฟะ 555

มีอีก 1 คอนเซปที่อ่านเจออยากเล่าให้ฟัง คือทฤษฎี 50/20/30 ต้องเรียงลำดับตามนี้เลยนะ 50 แรกคือ เวลาได้เงินมาให้แบ่ง 50%แรกให้กับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่ากิน ค่ายานหาหนะ เดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช่าบ้าน ผ่อนบ้าน อะไรที่จำเป็นตัดไม่ได้ พวกนี้อยู่ใน 50 แรก
พออันที่ 2 คือ 20 % ส่วนที่ 2 ต้องเอาเงินมาออมเก็บไว้ให้ตัวเองก่อนนะ ทำอย่างที่ 2 เลย ออม Pension , เผื่อฉุกเฉิน ออมไว้เพื่อลงทุน เราก็แบ่งออกมาก่อนเลย 20%
อย่างที่ 3 อย่างสุดท้าย 30% ที่เหลือ ทำอย่างสุดท้ายคือ เปย์ให้กับ Lifestyle ของตัวเอง เช่น สมัครสมาชิคฟิตเนส , สมัคร netflix , เดืนทาง ท่องเที่ยว , ซื้อหนังสือมาอ่าน กินร้านอาหารนอกบ้าน อื่นๆอีกมากมายตามใจชอบของแต่ละคน

แต่มันก็ไม่ได้ฟิก ตายตัวนะว่า จะต้อง 50 20 30 เป๊ะๆ คนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ค่ากิน ค่าใช้จ่ายจำเป็นก็อาจจะเต็ม 100% ของรายได้ไปแล้วก็ได้ มันก็ต้องค่อยๆหาเพิ่ม เพื่อมีไว้เก็บออมต่อยอดกันต่อไป ปรับไปตามความเหมาะสมของแต่ละคน

ตอนนี้สิ่งที่เราพยายามทำอีกอย่างนึงคือการ เจอเพื่อนให้มากกว่าเดิม และเดือนนี้ เราก็ทำแบบเดิมนี่ล่ะ ประหยัดค่าใช้จ่าย และจะทำให้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น เราก็คุยให้พี่ย้งฟังถึงแผนเสมอว่าตอนนี้เราไปถึงไหนแล้ว บางทีมีเพื่อนช่วยคิดก็ดีกว่าคิดคนเดียวเนาะ 🙂

เรื่องออกกำลังกายก็ทำอยู่นะ เวทเทรนนิ่ง ชอบมาก ต่อยมวย คาดิโอ วิ่ง จริงๆอยากว่ายน้ำอีก แต่ใช้เวลามากเหมือนกันสำหรับการว่ายน้ำนี่ สำหรับการเตรียมตัว

พออ่านเล่มเงินนี่จบแล้วก็จะตามไปด้วย หนังสือ IG เล่มนี้ค่ะ ตอนนี้เราพยายามหาช่องทางในการขายอื่นๆเพิ่มเติมด้วยล่ะ นี่เรามี IG นะ แต่ใช้ไม่ได้เป็นอะไร เลยอยากลองดูว่ามันมีวิธีใช้หารายได้อะไรได้เพิ่มมั่งมั้ย ลองทำดูๆ น่าหนุก ^^

ในส่วนของการเพิ่มรายได้ ในเดือนนี้ สิ่งที่เราจะทำ คือ สั่งของมาขายเพิ่ม และทำเบเกอรี่ ขนมเพื่อสุขภาพเพิ่มเติม และอีกอย่างที่เราอยากทำมากคือ การตัดต่อวีดีโอ เราไปซื้อคอร์สออนไลน์มาแล้วล่ะ ทำไป ไม่ซีๆ ทำวีดีโอนี่เพราะความอยากทำเลย ไม่ได้เกี่ยวกับการหารายได้อะไร พิมไว้แค่นี้ก่อนนะ มีอะไรอัพเดทจะมาพิมเก็บไว้ ^^ ขอให้ทุกคนโชคดี ขอบคุณสำหรับการอ่านจนจบ แล้วสิ้นปีนี้มาดูกันว่า ทำอะไรไปเพิ่มแล้วบ้างในครึ่งปีหลังนี่ 🙂

Leave A Comment