เริ่มลดอ้วนอีกครั้ง แบบฉบับคนอ้วนชอบกิน แต่ออกกำลังกายได้อยู่

อยากเขียนบันทึกไว้ว่า เริ่มต้นลดอ้วนรอบนี้ น้ำหนัก 68.5 ได้นะ ใช่ค่ะ! เราลดอ้วนมาแล้วหลายรอบมาก พอมันกำลังไปได้ดี ก็หยุด ทำไม่สม่ำเสมอ นี่คือข้อเสียของเรา เราต้องการพัฒนาตัวเอง ให้เราเป็นคนมีสุขภาพดีขึ้น เพราะตอนนี้คือเหนื่อยง่าย ขึ้นเครื่องบินอึดอัด กางเกงที่ใส่คับมาก เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนใหม่ อ้วนบุบบับ

เราเริ่มเทรน ท่าออกกำลังกายที่ถูกต้อง โดนตามส่วนต่างๆ มี Squat , plank , วิดพื้น, leg raise มาตั้งแต่วันที่ 10 มิย 62 อาทิตย์นึงเราจะเทรน 2 วัน วันละ 1 ชม แล้วแต่ว่าจะเป็นวันไหนในสัปดาห์ แต่จะต้องมีเว้น 2-3 วัน เช่น วันจันทร์ กับพฤหัส หรือ อังคาร กับ ศุกร์ ประมาณนี้นะ เนื่องจากเราต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วย บางทีก็ต้องมีเลื่อนบ้าง แต่เราก็ฝึกทำเองด้วยในวันที่ไม่ได้เทรน ในการเทรน ก็จะมี session มวยด้วยนะ โหย เหนื่อยใช้ได้ ไม่ต้องเน้นท่ามาก เราว่าในตอนแรก ไม่ต้องไปเกร็งหรือตั้งใจอะไรมาก ออกให้ได้เหงื่อ ให้เหนื่อยมากที่สุด เป็นพอ เราถ่ายวีดีโอท่าที่เราทำมาตั้งแต่วันแรก ๆ โหย หนักมากอะครั้งนี้ มันน้ำหนัก 68 ก็เหมือนแบกของหนักตลอดเวลา สมัยก่อน เราหนัก 60 ก็ยังไม่เหนื่อยเท่าทุกวันนี้ ก็ต้องพยายามไปเนอะ ฝึกๆไปเรื่อยๆ

เราอยากจดบันทึกไว้ว่า ตั้งแต่แรก เรากินอะไร ทำอะไรไปบ้าง แล้วดูความก้าวหน้า เพราะเราคิดว่าเราลดได้แน่นอน ใช้เวลาเยอะหน่อย ไม่ได้เร่งอะไร เพราะเราก็เพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกเองตลอด เราว่าสิ่งสำคัญในการออกกำลังกายเลยในแต่ละอย่างคือการ “เกร็งหน้าท้อง” เวลาจะต่อยมวย นอกจากท่าที่ถูกต้อง การกำหนดลมหายใจเข้าออก ยังต้องมีการ เกร็งหน้าท้อง ซึ่งตอนแรกๆเราก็ทำไม่ได้หรอก ลืม 555 เราก็ต่อยๆไป ตามแรงที่มี แรงมีเท่าไหร่คืออัดสุดแรง เพราะเราก็มีเวลาไม่มากเนาะใน1 ชั่วโมงจะได้ต่อยมวยสัก ครึ่งชม เท่านั้นเองล่ะ

ตอนแรกเริ่มก็จะมีการวอร์ม กระโดดตบ ทำ squat ตอนแรกทำไม่ได้เลย ไม่ปวดขาหลังปวดแต่ขาหน้า แล้วก็ leg raise บ้าง วอมแล้วค่อยเข้าช่วง ต่อยมวย และปิดท้ายด้วย HIIT ทุกวันจะต้องมีการเดิน 6000 ก้าว คือแต่ก่อนเราตั้งเป้าไว้ว่า เราจะเดินวันละ 10,000 ก้าวนะ แต่ตอนนี้ แค่ 6000 ก้าวเรายังทำไม่ถึงเลยอะ อันนี้คือข้อเสียของเรานะ เราไม่สามารถไปยิมทุกวันได้ เพราะเราขี้เกียจเอง ถ้าวันอาทิตย์นี่ เราก็จะมีเวลาไปยิม ออกกำลังแล้วไปเดินห้างต่อ หรือไปเดินห้างดูหนังสือในร้านหนังสือ ก็เป็นงานอดิเรกของเรา บางทีก็ไม่อยากทำงานเนาะ เบื่อๆก็ต้องหาอย่างอื่นทำ ไม่ให้อยู่เฉยๆ เป็นคนมีกิจกรรมทำตลอด

อาหารที่เรากิน เราไม่ได้ลดอะไรมาก ไม่ได้ฟิตเหมือนคนอื่นๆในเนทที่กิน clean ต้องมีการทำ fasting , คีโตอะไรพวกนั้น เรายอมรับว่าเราเป็นคนหัวแข็งนิดนึง เรารู้ว่ามันช่วยได้ พวก อาหารเสริม เราเข้าไปดูตามเวป ที่เขาขายเว และมีอาหารเสริมตั่งต่าง เขาก็อธิบายสรรพคุณว่ามันมี สารที่ทำให้เรากระปี้กระเปร่า พวกกาเฟอีน และอื่นๆที่ทำให้มีแรงออกกำลังกายทนทานไม่รู้จักเหนื่อยจักล้า ซึ่งมันดีจริงๆสำหรับคนอยากลดอ้วน ลดไขมัน อย่าง fasting ที่ให้กินๆๆๆ และอดไปกี่ชมๆ นั่นน่ะ เราก็ว่าถ้าทำได้จะดีมากเลย แต่นี่คือ รีเว่ล 1 ไง เทรนเน่อบอกว่าให้กิน 1400 ยังเกินๆ เดินก็ยังเดินไม่ถึง 6000 ก้าวต่อวันเลยอะ เราเป็นคนเชื่อในเรื่องธรรมชาติของร่างกาย เราไม่ค่อยฝืนอะไร เยอะเกินไป มันทำให้ไม่มีความสุข มันจะเครียดไป เรากินไอติม กินซุป คาโบนาร่าสปาเกตตี้ สลัด ข้าวผัด ข้าวมันไก่

เวลาหิว เราก็กิน แต่เราก็เลือกกินมากขึ้น นับแคล เวลาไหนที่ไม่ค่อยอยากกิน ก็ไม่ได้กินอะไร เวลาที่ออกกำลังกายเยอะๆ ก็ฟิตไปเป็นวันๆ วันไหนเพลียก็ไม่ทำ แต่ถ้าฝืนได้ก็ฝืนเท่าที่ทำได้ ก็ยังถือคติว่าถ้าวิ่งไม่ไหว ก็เดิน เดินไม่ไหวก็คลาน ตอนนี้ก็คงเรียกว่าคลานก่อน เพราะแต่ละทีที่ทำ squat คือ เหนื่อยมาก เหงื่อไหล ตอนแรกนะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ

เป้าหมายที่เราตั้งไว้คือ ลดน้ำหนัก เดือนละ 2 กก เราต้องการลดจาก 68 ไปอยู่ที่ 60 ก่อนในเฟสแรก แล้วเฟสที่ 60 ไป 55 นี่ ก็น่าจะยากกว่าอีก แต่ก็จะทำให้ได้เลย เรารู้ว่าเราทำได้

ตอนนี้ก็จะมีเรื่องการทำขนมที่เราต้องชิมๆ แต่ก็คิดว่า จำกัดตัวเองได้อยู่ 555 ขี้เกียจจะเอาออกแล้ว ตอนไปญี่ปุ่นต้นปี ก็กินไม่คิดจนมันขึ้นมาขนาดนี้

เราคิดว่า พาทอาหารของเรา ไม่ได้น่าให้ใครทำตาม แต่มันแล้วแต่คนจริงๆนะ จะไปจำกัดว่า ควรกินเท่านี้ แค่นี้ต่อวัน เราว่ามันเครียดไป เราควรปรับให้เข้ากับ lifestyle ของตัวเอง ความทนทานของตัวเอง อายุก็มีส่วนเกี่ยวด้วย เราอายุ 34 แล้ว จะให้ไปอดอาหารเหมือนเด็กๆ เราไม่ไหว เราทำงานก็มีจุกจิกบ้าง น้ำหวานน้ำตาลในร่างก็เติมบ้างตามโอกาส

เรากับแฟน ไม่เคยกิน น้ำแข็งไส after you เลย ตอนกินเรารู้สึกว่ามันอร่อยมาก แต่ก็อย่างว่า จำกัดโคตรๆอะ 555 แต่ แค่ได้กินก็มีความสุขแล้ว

นี่คือทรตเค้กที่เรากิน เชอรี่อร่อยมาก แต่อย่างที่บอก พาทนี้เราไม่ค่อยโอเค ต้องปรับอยู่นะ เราไปกินมาหลายอย่างมากและอร่อยทุกอย่าง 555

เมนูด้านบนนี่ มะนาวโซดา ตะไคร้ เป็นสิ่งที่เราชอบมาก เอาทุกๆอย่างที่ชอบมารวมกัน กินแล้วสดชื่นเพิ่มพลังมากๆเลยอะ แต่ตอนกินก็นับแคลอยู่นะ วันนึงจะไม่เกิน 1400 แต่วันไหน ชีทเด ก็ อืม เอาเถอะ ค่อยๆทำ เป้าหมายก็ทำให้มีความสุขล่ะ อย่างที่บอกตอนแรก

เราถ่ายวีดีโอ ทำ leg raise ไว้ที่บ้านแฟน โหย หนักเหมือนกัน เสียงที่ออกมาคือ ยกขาเราเองอะ เทรนเน่อบอกว่าคนที่ออกกำลังกายถึง โดนจริงๆ จะมีเสียงออกมาแบบนี้ล่ะ ธรรมดา ทีแรกก็อายอยู่นะ แต่ทำๆไป มันโดนจริงๆ หัวเราะทีคือ เจ็บท้องเลย ตอนนี้ดีขึ้น

เขียนบลอกนี้ตอนวันที่ 30 มิย ตอนกลางคืนนะ จะเข้าเช้าวันที่ 30 มิยน่ะ เรารู้สึก มีความสุขที่ได้เขียนเล่าเรื่องบอกให้ผู้อื่นรู้ด้วย เผื่อจะได้เป็นกำลังใจ ให้กันใน community wordpress เล็กๆนี้ของเรานะคะ ตอนนี้นนเราอยู่ที่ 66.5 ซึ่งถือว่า ไปตามเป้าที่กำลังทำเลย ยังไม่ถึงเดือนพอดี ^^ ทำต่อไป สู้ๆ

You practice and you get better everyday . That’s simple คำคมก่อนจบค่ะ